Content

น้ำยาเคลือบแก้วราคาถูก

น้ำยาเคลือบแก้วราคาถูก

น้ำยาเคลือบแก้วราคาถูก

สำหรับทางศูนย์บริการของเราเป็นศูนย์บริการที่รับทำการเคลือบสีรถยนต์โดยเฉพาะ ซึ่งการเคลือบสีรถยนต์คืออะไรความหมายของการเคลือบสีรถยนต์คืออะไรนั่น เดี๋ยวเรามาดูกันว่าจะมีความหมายว่าอย่างไรแต่สำหรับคนที่มีรถยนต์ขับขี่ หรือมีรถยนต์น่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่าการเคลือบสีรถยนต์คืออะไรประโยชน์ของมันคืออะไรและทำไมเราจึงต้องทำการเคลือบสีรถยนต์ไว้

สำหรับประโยชน์ของการเคลือบสีรถยนต์ก็คือ เพื่อให้รถของเราดูเงางามดูสะอาดและใหม่อยู่ตลอดเวลา การเคลือบสีรถยนต์ทำให้สีของรถไม่มองในระยะเวลายาวนาน สีรถจะไม่เสื่อมสภาพเร็วไปตามกาลเวลา การเคลือบสีรถยนต์จะช่วยป้องกันสีรถของคุณจากสภาพแวดล้อมต่างๆ เช่นยางไม้ ฝุ่นควันละอองต่างๆเช่นละอองสี มลพิษคราบน้ำมันเครื่องที่ออกจากท่อไอเสียจากรถคันอื่นมาติดที่ผิวรถของเรา แล้วยังสามารถปกป้องสีรถ ของเราจากฝนกรด

หัวข้อนี้สำคัญมากเพราะบางทีเราหรือคนส่วนใหญ่จะไม่ชอบล้างรถ การเคลือบสีรถตอนหน้าฝนเพราะคิดว่าล้างไปเดี๋ยวฝนก็ตกรถก็เพื่อนแต่ถ้ารู้หรือไม่ว่า บางทีเราไม่ได้ล้างรถหลังเปียกฝนมานั้นแถมถ้ายังทิ้งเอาไว้นานๆจอดแห้งรถของเราจะเกิดคราบน้ำ ถ้าฝนที่ติดฝังแน่นบนผิวสีรถอันเนื่องมาจากฝนกรดได้ด้วย จึงทำให้การเคลือบสีรถนั้นค่อนข้างได้รับความนิยมและมีหลากหลายประเภทหลากหลายรูปแบบให้เราเลือกได้ด้วย

ถ้าเราต้องการเคลือบสีรถแบบไหนซึ่งสำหรับการเคลือบสีรถที่มีคุณภาพ ที่ได้รับความนิยมในตอนนี้ก็น่าจะเป็นการเคลือบแก้ว เพราะฉะนั้นหากใครที่กำลังต้องการหาศูนย์บริการหาน้ำยาเคลือบแก้วราคาถูก และหาศูนย์บริการที่มีความชำนาญในการทำงานและมีทีมงานที่มีคุณภาพและมีการจำหน่ายน้ำยาเคลือบแก้วราคาถูกนั้นก็สามารถทำการติดต่อมาทางศูนย์บริการของทางเราได้ เพราะน้ำยาเคลือบแก้วก็ถือได้ว่ามีคุณสมบัติและมีประโยชน์ต่อการเคลือบสีรถเป็นอย่างมากเพราะเราสามารถนำไปใช้ในการเคลือบสีรถทำให้สีรถของเรานั้นได้รับการปกป้องถึง 3 ปีขึ้นไปอยู่ที่ศูนย์บริการแต่ละศูนย์ แต่น้ำยาของทางบริษัทของเราหรือศูนย์บริการของเรานั้นมีคุณภาพที่คงทนและคุ้มค่ากับราคาอย่างแน่นอนและยังมีราคาถูกอีกด้วย เพราะฉะนั้นหากใครสนใจสามารถติดต่อมายังบริษัทและศูนย์บริการของทางเราได้ ทางเรายินดีให้คำแนะนำได้ยินดีให้คำปรึกษาเพราะบางคนอาจจะยังไม่เคยทำการเคลือบสีรถมาก่อน ต้องการคำปรึกษาและต้องการทำการแนะนำทางบริษัทของเรายินดีให้บริการเพื่อให้ท่านสามารถทำการตัดสินใจได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

เคลือบสี กับ ceramic แตกต่างกัน

เคลือบสีรถยนต์ และ Ceramic แตกต่างกันอย่างไร

เคลือบสี กับ ceramic แตกต่างกัน

เคลือบสีรถยนต์, ceramic

สำหรับการเคลือบสีรถยนต์ก็คือ การที่เรา ลงน้ำยาเพื่อที่จะปกป้องเราหรือเราเรียกว่าเป็นเทคนิคสำหรับการดูแลสีรถยนต์ให้ดูใหม่อยู่เสมอนั่นเอง ซึ่งการเคลือบรถยนต์ก็มีหลากหลายประเภทให้เราสามารถเลือกเครื่องรถยนต์ของเราได้ซึ่งการเคลือบรถยนต์มีทั้งหมด เดี๋ยวเรามาดูกันว่ามีอะไรบ้าง สำหรับรูปแบบแรกก็คือการเคลือบ Wax เป็นการเคลือบรถยนต์ที่ราคาไม่ค่อยสูงและหน้าที่สุดที่เราสามารถทำได้เองที่บ้านขอแค่มีเนื้อผ้าดีๆเอาไว้ลงน้ำยาและอีกผืน

สำหรับการขัด แค่นี้ก็เป็นที่เรียบร้อยแล้วซึ่งข้อเสียก็คือคุณอาจจะต้องทำบ่อยๆเพราะการแว๊ก ไม่ได้ทำให้ติดทนทานมากนัก
สำหรับประเภทต่อมาก็คือการลงน้ำยาเคลือบรถ สำหรับวิธีนี้บอกได้เลยว่าถ้าไม่ใช่ผู้เชี่ยววชาญหรือคนที่มีความสามารถจริงๆแล้วก็อาจจะทำให้เคลือบนั้นไม่เท่าทุนเสมอกันทั้งคันได้เพราะคนทำนั้นควรจะเป็นคนที่มีประสบการณ์เป็นอย่างมาก ถึงหลักการเคลื่อนที่ในลักษณะนี้ก็เป็นการเคลื่อนที่ราคาไม่สูงมากเช่นเดียวกันอีกทั้งยังติดทนนานกว่าการเคลือบแบบแรกนั่นก็คือการเคลือบแว็กอีกด้วย

แล้วต่อมาก็เป็นการเคลือบสีรถยนต์ที่เราคุ้นเคย แล้วได้ยินกันมามันก็คือการเคลือบสีรถยนต์แบบ ceramic เดี๋ยวเรามาดูกันว่าการเคลือบสีรถยนต์แบบเซรามิกนั้นมีอะไร และมีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้างสำหรับรถยนต์ของเราที่ต้องการเคลือบสีรถยนต์แบบเซรามิค

สำหรับการเคลือบเซรามิกคือการนำแก้วมาให้ความร้อนและอัดแรงดันเข้าไปเพื่อให้โครงสร้างเรียงตัวใหม่และเป็นระเบียบมากขึ้น การเคลือบเซรามิกการทนรอยขีดข่วนได้ดีนั้นขึ้นอยู่กับความแข็งแรงอาจจะไม่ใช่การคงทน อายุการใช้งานของเซรามิกจะมีความเสถียรและมีความแข็งแรงสูงกว่าการเคลือบแก้วจึงทำให้อายุการใช้งานของการเคลือบเซรามิกนั้นยาวนานกว่าการเคลือบแก้วนั้นเอง

ดังนั้นถ้าเราจะสรุปข้อแตกต่างหรือข้อดีข้อเสียของการเคลือบแก้วและการเคลือบเซรามิก ว่าอันไหนดีกว่ากันก็ต้องอยู่ที่ความพร้อมด้วยเพราะการเคลือบเซรามิกนั้น มีราคาที่ค่อนข้างสูง แต่ก็ได้คุณภาพที่เหมาะสมกับราคาเช่นเดียวกัน และต้องหาศูนย์บริการที่ดีและมีคุณภาพที่ใช้น้ำยาหรืออุปกรณ์ที่คุ้มค่าคุ้มราคาและมีคุณภาพ เพราะฉะนั้นถ้าหากใครที่กำลังมีความสนใจยาเคลือบสีรถยนต์ โดยการเคลือบเซรามิก แล้วยังหาศูนย์บริการที่ไว้วางใจไม่ได้หรือมีประสบการณ์การทำงานที่ยาวนานไม่ได้ ก็สามารถใช้บริการกับศูนย์บริการของทางเราเพราะทางเราเป็นศูนย์บริการสำหรับการเคลือบสีรถยนต์โดยเฉพาะที่ให้บริการที่มีคุณภาพต่อท่านอย่างแน่นอน หากสนใจก็สามารถทำการติดต่อสอบถามเข้ามาได้

เคลือบแก้ว เคลือบเซรามิก

เคลือบแก้ว, เคลือบเซรามิก

เคลือบแก้ว เคลือบเซรามิก

        เคลือบแก้ว สำหรับเคลือบแก้วก็คือ การที่เรานน้ำน้ำยาเคลือบแก้วสูตรพิเศษที่มีส่วนผสมของซิลิกา(Sio2) มาเคลือบที่ผิวลดเพื่อทำการปกป้องผิวรถของเราโดยระดับความหนาของชั้นเคลือบ โดยที่การเคลือบแก้วนี้จะทำให้ผิวรถเราเป็นประกายเงางามและยังเป็นเกราะป้องกันอีกชั้นหนึ่งของเล็กเกอร์และสีของรถยนต์ของเราได้เป็นอย่างดี รวมทั้งยังสามารถทนรอยขีดข่วนในระดับบางๆได้อีกด้วย ข้อดีของการเคลือบแก้วก็คือเหมาะสมสำหรับรถที่เป็นรอยง่ายเช่นรถสีขาวและสีดำ และยังป้องกันและรักษา สีรถให้ดูสดใสใหม่อยู่เสมอ ต่อมาก็คือช่วยลดรอยขีดข่วน ช่วยลดรอยขนผ้า และช่วยลดรอยขนแมว ต่อมาก็คือจะช่วยป้องกันแสงแดด UV เหมาะสมกับผู้ที่ต้องจอดรถไว้กลางแจ้งบ่อยๆ ข้อดีอีก 1 ข้อก็คือช่วยป้องกันคราบเปื้อนต่างๆ เช่นฝุ่น ขี้นก ยางมะตอย ฝนและคราบหยดน้ำเพราะเคลือบแก้วจะทำให้น้ำเกาะผิวลดน้อยไม่ทิ้งคราบน้ำ การเคลือบแก้วจะอยู่ได้ประมาณ 2 ปี ขึ้นอยู่กับแต่ละส่วนของการให้บริการที่ท่านเลือกให้แก่รถยนต์และรถโดยสารของท่าน

        เคลือบเซรามิก จะมีสารตั้งต้นอย่าง ซิลิกอนคาร์ไบด์ (SiC) คงมีหลายๆควรที่จะได้เห็นสรรพคุณและข้อดีต่างๆของการเคลือบเซรามิกอยู่แล้ว ซึ่งการเคลือบเซรามิกกลายเป็นส่วนสิ่งวิเศษราวกับเป็นนวัตกรรมจากโลกอนาคตการเคลือบเซรามิก ที่ช่วยป้องกันสีรถได้อย่างดีเยี่ยมเคลือบเซรามิก น่าจะได้ยินกันมากในยุคนี้ แต่หลายคนอาจจะยังไม่เข้าใจมันแท้จริง หลักการของการเคลือบเซรามิก คล้ายกับเคลือบแก้ว คือการใช้น้ำยาพิเศษสร้างชั้นพื้นผิวเพิ่มจากชั้นแล็คเกอร์ อีก 1 ชั้น เพื่อป้องกันการทำรอย ปฏิกิริยา กับชั้นแล็คเกอร์โดยตรง

        ดังนั้น ซิลิกอน คาร์ไบด์ และ ซิลิก้า ที่ใช้ในเคลือบแก้ว นั้นก็เป็นสารเซรามิคประเภทหนึ่งเช่นกัน ดังนั้นการเคลือบแก้ว หรือเคลือบเซรามิก เป็นการป้องกันโดยสารที่มีความแข็งมากกว่าจะทำให้การปกป้องจากรอยขีดข่วนดีกว่า โดยส่วนใหญ่ค่าการขีดข่วนนี้จะถูกแทนด้วยคำว่า   Hardness ทนต่อขีดข่วนด้วยดินสอได้เลย ในทางกลับกันมันแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่รอยจากการเช็ดรถด้วยผ้าจะทำอันตรายได้ซึ่งในปัจจุบันได้มีนวัตกรรมใหม่ๆเข้ามา ทำให้การเคลือบแก้ว เคลือบเซรามิก ตอบโจทย์สำหรับลูกค้ามากขึ้นดูแลสีรถได้ง่ายมากขึ้น

 

เคลือบแก้วรถยนต์ด้วยตัวเอง

วิธีการล้าง การเคลือบแก้วรถยนต์ ด้วยตัวเอง ง่าย และได้ผลจริง

เรื่องของการใช้รถยนต์นั้น หลายคนคงจะทราบกันดีอยู่แล้วว่า เครื่องยนต์ และสภาพของอะไหล่ต่างๆ ในตัวรถนั้นย่อมต้องมีการเสื่อมสภาพไปตามเวลา และการใช้งาน แต่สิ่งหนึ่งที่จะสามารถรักษาให้คงสภาพอยู่ได้ง่าย และบ่งบอกถึงการดูแลเอาใจใส่รถยนต์ได้เป็นอย่างดีก็คือ ความสวยงามของรถยนต์ นั่นเอง

หนึ่งในวิธีที่จะช่วยให้รถของคุณดูสวยงามอยู่เสมอก็คือการ เคลือบสีรถยนต์ ไม่ว่าจะทั้งการ เคลือบแก้ว เคลือบเซรามิก (ceramic) ก็ล้วนแต่เป็นวิธีที่จะช่วยให้รถยนต์ดูสวยงามอยู่เสมอ และยังคงดูใหม่ได้ตลอดเวลา แม้ว่าจะใช้งานมานานหลายปีแล้วก็ตาม ซึ่งการเคลือบแก้วรถยนต์นั้น แท้จริงแล้วก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเสียเงินราคาแพงในการ เคลือบรถยนต์ ที่ร้าน เพราะสามารถที่จะทำได้เอง โดยทำตามวิธีและขั้นตอนดังต่อไปนี้

1. เลือกสถานที่ในการล้าง

ขั้นตอนแรกของการล้าง เคลือบแก้ว รถยนต์ก็คือ การล้างทำความสะอาดรถจากภายนอกกันก่อน หรือที่เรียกว่าทำความสะอาดผิวรถนั่นเอง ซึ่งการล้างเพื่อที่จะทำการเคลือบด้วยนั้น ควรเลือกสถานที่ในร่มสำหรับการล้าง นั่นก็เพราะการล้างในสถานที่ที่มีแดดจัด หรืออากาศร้อนจัด มักจะทำให้เกิดรอยคราบน้ำบนผิวรถได้ ซึ่งก็ทำให้ต้องออกแรงขัดรอยคราบกันอีกในภายหลังได้

2. สามารถล้างด้วยแชมพูล้างรถได้

หลายๆ คนเข้าใจว่า การล้างรถก่อน เคลือบแก้ว เคลือบสี หรือ เคลือบเซรามิก ceramic นั้นจะต้องล้างรถด้วยน้ำเปล่าเพียงอย่างเดียว เพราะแท้จริงแล้วก็สามารถที่จะล้างด้วยแชมพูล้างรถได้ด้วย เพราะในหลายๆ จุดที่ไม่สามารถทำการ เคลือบรถยนต์ได้ ก็จำเป็นที่จะต้องทำความสะอาดด้วยแชมพูล้างรถด้วยเหมือนกัน

3. เช็ดรถจนมั่นใจว่าแห้งสนิท

หลังจากการล้างทำความสะอาดรถยนต์จนครบทั้งคันแล้ว ก็ต้องเช็ดทำความสะอาดให้เรียบร้อย ซึ่งการเช็ดรถนั่นแนะนำว่าควรเลือกใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ หรือผ้าชามัวร์ในการเช็ดเท่านั้น เพราะจะช่วยเก็บรอบคราบน้ำและทำให้รถยนต์แห้งได้ดีที่สุด ซึ่งเมื่อมั่นใจแล้วว่ารถยนต์คันโปรดของคุณแห้งสนิท ไม่มีร่องรอยหรือคราบน้ำแล้ว ก็พร้อมที่จะทำการ เคลือบรถยนต์ ด้วยตัวเองได้แล้ว

4. เริ่มทำการ เคลือบแก้วรถยนต์

เมื่อรถยนต์ของคุณพร้อมสำหรับการเคลือบแล้ว คราวนี้ก็ให้เทน้ำยาสำหรับ เคลือบแก้วรถยนต์ ซึ่งบางท่านอาจจะใช้เป็นน้ำยา เคลือบเซรามิก ceramic อันนี้ก็แล้วแต่ความชื่นชอบของแต่ละคน โดยให้เทน้ำยา เคลือบรถยนต์ ลงบนฟองน้ำ หรือผ้าชามัวร์ สังเกตให้มีความชุ่มหมาดๆ พอดีๆ แล้วค่อยเริ่มเช็ดทีละส่วน

สำหรับการเช็ด เคลือบแก้ว ก็มีข้อบังคับที่ต้องปฏิบัติตามกันอยู่เล็กน้อย นั่นก็คือ ต้องเคลือบตามแนวตั้ง และแนวนอน สลับกันลักษณะแบบตาราง จากนั้นให้รอน้ำยาเซ็ตตัวประมาณ 5 นาที โดยคอยสังเกตดูว่าน้ำยาเคลือบมีสีรุ้งปรากฏหรือไม่ หากมีก็ให้ใช้ผ้าเช็ดออกเบาๆ โดยต้องเช็ดไปในทางเดียวกันเท่านั้น

5. เก็บรายละเอียดอีกเล็กน้อย

เมื่อรอให้น้ำยาเคลือบแก้ว เซ็ตตัวจนครบ 5 นาที แล้ว และไม่ปรากฏให้เห็นสีรุ้ง คราวนี้ก็ให้ใช้ผ้าอีกผืนมาเช็ดในบริเวณที่เคลือบแก้วรถยนต์ ทั้งหมดอีกครั้ง โดยให้เช็ดในทิศทางเดิม (แนวตั้ง แนวนอน) เมื่อเช็ดจนครบทุกจุดแล้ว ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

ใครที่สนใจ อยากจะเคลือบแก้ว เคลือบสี เคลือบเซรามิก ceramic รถยนต์ ด้วยตัวเอง ก็ลองนำวิธีที่เรานำมาฝากนี้ ไปใช้กันดู รับรองว่าจะช่วยให้รถยนต์คันโปรดของคุณ วับวาว ดูสดใส ไม่ต่างจากการไปล้างที่ร้านอย่างแน่นอน

เคลือบแก้ว

เคลือบแก้วคืออะไร

เคลือบแก้ว

เชื่อว่าคนที่มีรถยนต์ หรือคนที่รักรถคงจะพอทราบกันมาบ้างแล้วว่าการเคลือบแก้วนั้นมีลักษณะหน้าตาเป็นอย่างไร แต่เชื่อได้เลยคงมีอีกหลายๆ คนเลยที่ยังไม่รู้กว่าจริงๆ แล้วการเครือบแก้วคืออะไร มีกรรมวิธีอย่างไร และใช้สารอะไรในการเคลือบรถยนต์ของเรา ซึ่งในวันนี้เราไปทำความรู้จักกับการเคลือบแก้วกันดีกว่าว่าตกลงแล้วมันคืออะไรกันแน่

            การเคลือบแก้ว หรือ Glass Coating คือ กรรมวิธีในการเคลือบผิวของรถยนต์ด้วยการใช้น้ำยาแบบพิเศษที่มีส่วนผสมของ ซิลิกา (Silica) ซึ่งมีระดับความหนาของชั้นเคลือบตั้งแต่ระดับ 1-10 H โดยการเคลือบแก้วนั้นนอกจากจะมีคุณสมบัติในการป้องกันรอยขีดขวนเล็กๆ น้อยๆ ให้กับตัวรถได้แล้ว ยังช่วยทำให้ผิวรถยนต์ของเราเป็นประกายเงางามอีกด้วย

ข้อดีของการเคลือบแก้ว

    1.ช่วยป้องกัน และลดรอยขีดขวนเล็กๆ น้อยๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับรถของเราได้ เช่น รอยขนผ้า รอยขนแมว ทำให้รถของเราไม่เป็นรอยง่ายๆ
    2.ช่วยป้องกัน และทำให้สีของรถยนต์ดูสวยสดใหม่อยู่เสมอ
    3.ช่วยปกป้องตัวรถจากแสง UV สำหรับคนที่ต้องจอกรถตากแดดอยู่บ่อยๆ
    4.ช่วยปกป้องตัวรถจากคราบะเปื้อนต่างๆ ได้ เช่น น้ำฝน คราบหยดน้ำ ขี้นก จนไปถึงยางมะตอย
    5.มีอายุการใช้งานที่ค่อนข้างนาน การเครือบแก้วหนึ่งครั้งสามารถอยู่ได้ 2 – 3 ปีเลยทีเดียว (ขึ้นอยู่กับศูนย์บริการ)
    6.ทำความสะอาดง่าย เพียงแค่ใช้น้ำฉีดก็สามารถล้างคราบสกปรกออกไปจากตัวรถได้เลย ทำให้เราไม่เสียเวลามากกับการล้างรถ

ข้อพิจารณาในการเคลือบแก้วให้กับรถยนต์

    1.การเคลือบแก้วช่วยปกป้องตัวรถจากรอยขีดขวนเล็กๆ น้อยๆ ที่อาจเกิดจากฝุ่นบนท้องถนนได้ก็จริง แต่ไม่สามารถป้องกันรอยขีดขวนหนักๆ อย่างการโดนทุบด้วยของแข็ง หรือการนำฟองน้ำติดทรายไปทูรถได้
    2.รถที่สามารถเคลือบแก้วได้ต้องเป็นรถที่ไม่มีรอยขีดขวนใดๆ และสะอาดอยู่ก่อนแล้ว หากรถไม่อยู่ในสภาพที่ดีจำเป็นต้องทำการ Wet Look ก่อน จึงจะสามารถทำการเคลือบแก้วได้
    3.การเคลือบแก้วในแต่ละครั้งนั้นมีราคาค่อนข้างสูง แต่ก็ถือว่าคุ้มค่ากับเงินที่เราจ่ายไปเพราะการเคลือบแก้วนอกจากจะสวยป้องกันรอยขีดขวนให้กับตัวรถได้แล้วยังทำให้รถของเราดูสวยเงางามเหมือนรถใหม่ไปได้อีกนาน จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมคนส่วนใหญ่ในปัจจุบันถึงนิยมการเคลือบแก้วกัน

เล่ามาถึงตรงนี้คงจะพอทราบกันแล้วใช่ไหมละครับว่าการเคลือบแก้วนั้นคืออะไร